แข็งจากรากดีจังหรือ ? : เพราะอะไรสหรัฐฯลีกแน่ แม้กระนั้นกลุ่มชาติสุดแกว่งไกว

ถ้าเกิดไม่นับห้าลีกใหญ่ที่ยุโรป เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ หรือ MLS ย่อมเป็นลีกบอลที่น่าจับตาสูงที่สุดตอนนี้ เนื่องจากว่าไม่เพียงแค่จะยกฐานะเป็นเยี่ยมในลีกกีฬาสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ว่ายังก้าวมาเป็นคู่ต่อสู้ของหลายลีกบอลในยุโรป Finalgoal

แต่ การพัฒนาอย่างสม่ำเสมอนี้มิได้เกิดขึ้นในกลุ่มชาติอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น ความผิดพลาดสำหรับเพื่อการซื้อตั๋วเข้าบอลโลก 2018 รวมทั้งยังพูดไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มลำดับหนึ่งของโซนคอนค้างเคฟอปิ้งเต็มปาก นี่เป็นผลงานในระดับที่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานกีฬากลุ่มชาติในสายตาคนอเมริกันอย่างชัดเจน

Main Stand หาคำตอบว่าเพราะเหตุไรการพัฒนาของ MLS ถึงไม่มีผลต่อกลุ่มชาติอเมริกา ซึ่งสะท้อนให้มองเห็นถึงการพัฒนาลีกแบบไม่สนใจนักฟุตบอลในชาติ รวมทั้งเรื่องจริงที่บอลยังคงเป็นกีฬาสำหรับราษฎรระดับรองในสังคมอเมริกัน บ้านผลบอล finalgoal

ปรับปรุงลีกกระทั่งลืมนักฟุตบอลในชาติ

ย้อนกลับไปยังปี 2015 ชมรม ซีแอทเทิล ซาวน์เดอร์ส ถูกกล่าวถึงอย่างมากในแวดวงบอลโลก ข้างหลังพวกเขาทำค่าถัวเฉลี่ยยยอดผู้ชมตลอดฤดูที่ 43,734 คน เมื่อเทียบกับชมรมพรีเมียร์ลีกขณะนั้น ซีแอทเทิล ซาวน์เดอร์ส จะเข้ามาเป็นชั้น 6 ของตาราง และก็มีปริมาณผู้ชมมากยิ่งกว่ากลุ่มดังอย่าง เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

การแสดงภาพของสมาพันธ์ที่มีคนรักบอลภักดีสูงที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลกโดยซีแอทเทิล ซาวน์เดอร์ส สะท้อนภาพว่า MLS กำลังเติบโตยอดเยี่ยมในลีกกีฬายอดนิยมเยอะที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ถ้าเปรียบเทียบยอดผู้ชมของซีแอทเทิล ซาวน์เดอร์ส กับกลุ่มอเมริกันบอลประจำเมือง ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส์ จะพบว่าซาวน์เดอร์ส มียอดผู้ชมเฉลี่ยน้อยกว่าซีฮอกส์ เพียงแค่ราวหนึ่งหมื่นคน

น่าแปลกใจไปๆมาๆกกว่านั้น ซีแอทเทิล ซาวน์เดอร์ส มียอดผู้ชมเหนือกลุ่มเบสบอลประจำเมืองถึงแทบสองหมื่นคน เพราะว่า ซีแอตเทิล มารีนเนอร์ส มียอดผู้ชมเฉลี่ยตลอดฤดู 2015 อยู่ที่ 27,081 คน ยิ่งเมื่อถอยออกมาในรูปภาพรวมของลีกซึ่ง MLS มียอดเฉลี่ยนผู้ชมในช่วงฤดูกาล 2015 อยู่ที่ 21,574 คน เทียบกับ MLB ซึ่งอยู่ที่ 30,517 คน ข้อมูลที่ตรงนี้อาจทำให้เห็นได้อย่างเห็นได้ชัดว่า MLS ขยับใกล้หนึ่งในลีกกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐฯแค่ไหน บ้านผลบอล 888 สด

ตั้งแต่แมื่อวันนั้น MLS มีการเติบโตมากขึ้นการลงทุนรวมทั้งทุ่มงบประมาณเพื่อแย่งการบรรลุเป้าหมายในลีกบอลที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีความเข้มข้นไม่แพ้บอลยุโรป ไม่ว่าจะเป็น การเข้ามาสู่ลีกอีกรอบของ เดวิด เบ็คหมูแฮม เพื่อจัดตั้งชมรม อินเตอร์ ไมอามี่ ในปี 2020 ข้างหลังเคยสร้างกระแสบูมกับการเป็นนักฟุตบอลให้ แอลเอ กาแลคซี่ ระหว่างปี 2007-2012 หรือ ลอสแอนเจลิส เอฟซี ที่พึ่งจะคว้าตัว เอ็งเร็ธ เบล รวมทั้ง หน้าจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ซูเปอร์สตาร์สุดยอดเข้ามาสู่กลุ่ม

ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่านักเตะจำนวนไม่ใช่น้อยเดินทางเข้ามาสู่ MLS เพื่อค่าจ้างรายเดือนอย่างมากมายที่พวกเขาไม่อาจจะหาที่แห่งไหน แต่ว่านักฟุตบอลฝีเท้าดีจากยุโรปรวมทั้งอเมริกาใต้พวกนี้ นับว่าเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ความนิยมชมชอบของ MLS พุ่งมากยิ่งกว่าเดิมในตอนยาวนานหลายปีข้างหลัง เมื่อบวกกับชมรมที่มีเพียงแต่จะเพิ่มงบประมาณทำทีมขึ้นทุกวี่ทุกวัน ก็เลยเรียกได้ว่า สมาพันธ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ กำลังกระทำตนเป็นเสมือนกลุ่มบอลในพรีเมียร์ลีกเป็นทุ่มแหลกเพื่อสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจแก่แฟนบอลในทุกฤดู

อ้างอิงตามเว็บตีราคาตัวนักฟุตบอลมีชื่อเสียง Transfermarkt ในเวลานี้ MLS มีมูลค่านักฟุตบอลในลีกมากยิ่งกว่า 1 พันล้านยูโร รวมทั้งเมื่อนำราคานี้ไปเทียบกับลีกยุโรป พวกเขาจะรั้งชั้น 7 ของตาราง โดยด้อยกว่าเพียงแต่ห้าลีกใหญ่ที่ยุโรป แล้วก็ลีกประเทศโปรตุเกสเพียงแค่นั้น ที่เหลือไม่มีลีกไหนในยุโรปที่จะมีมูลค่านักฟุตบอลสู้ MLS ได้อีกแล้ว

MLS ก็เลยไปถึงเป้าหมายเป็นอย่างมากในด้านของการผลิตค่าของลีกแล้วก็สมาพันธ์บอลในเครือ พวกเขาต้องการจะเป็นบอลมหาเศรษฐีที่มีเงินแพร่ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่แพ้พรีเมียร์ลีก รวมทั้งหลายสมาพันธ์ก็ต้องการจะเป็นแบบ บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด ที่มีคนรักบอลแน่นแฟ้นทั้งยังในและก็นอกประเทศ แม้กระนั้นการพัฒนาลีกในรูปแบบนี้ มิได้มีแม้กระนั้นผลในทางที่ดีสิ่งเดียวแน่ๆ บ้านผลบอล goal

เหมือนกันกับที่พรีเมียร์ลีกประสบพบปัญหาอย่างมากในตอนต้นทศวรรษ 2010s ที่นักเตะฝีเท้าดีจากทั้งโลกหลั่งไหลเข้ามากระทั่งปิดโอกาสหน้าแข้งในประเทศเสียหมด MLS กำลังเจอปัญหาเดียวกัน เนื่องจากนักฟุตบอลตัวชูโรง 20 คนแรกของ MLS (อ้างอิงตามราคาในตลาด) ต่างไม่ใช่นักฟุตบอลคนประเทศอเมริกาแม้กระทั้งผู้เดียว

นักเตะตัวชูโรงของ MLS ช่วงปัจจุบัน โดยมากเป็นนักเตะจากอเมริกาใต้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าแข้งจากประเทศอาร์เจนตินา, บราซิล, โคลอมเบีย หรือ ประเทศเปรู ทั้งหมดทั้งปวงต่างครอบครองพื้นที่ในฐานะซูเปอร์สตาร์ของลีกไว้ทั้งหมด ส่วนนักฟุตบอลอเมริกันที่ค่าตอบแทนสูงสุดของลีก ยกตัวอย่างเช่น เฮซุส เฟร์เรย์ร่า แผงหน้าที่ เอฟซี ดัลลาส ซึ่งมีค่าตัวเพียงแต่ 6 ล้านยูโร แค่นั้น ทั้งๆที่เขากำลังดำรงตำแหน่งดาวซัลโวของ MLS ฤดู 2022

เหตุผลที่นักฟุตบอลอเมริกันมีค่าตัวตามการคาดการณ์น้อยเอาเสียมากๆแม้ว่าจะส่งผลงานดีในขณะนี้ โน่นเป็นเพราะว่าพวกเขาถูกละเลยโดยตลอด มีนักเตะน้อยผู้ที่จะได้รับจังหวะอย่างแจ่มแจ้งตั้งแต่ดาวรุ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งสำคัญอย่างผู้เล่นตัวรุก การจะก้าวขึ้นมาเป็นหน้าแข้งแถวหน้าใน MLS ของนักฟุตบอลอเมริกันก็เลยไม่ใช้ว่าจะง่ายเลย ด้วยเหตุว่าพื้นที่จำนวนมากนี้ถูกครอบครองโดยนักฟุตบอลอเมริกาใต้ที่ดังกว่า, ฝีเท้าดีมากกว่า และก็มีมูลค่ามากยิ่งกว่า

สำหรับคนใดกันแน่ที่เก่งจริงๆอย่าง เฮซุส เฟร์เรย์ร่า ย่อมสามารถก้าวเข้าไปเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกลุ่มชาติสหรัฐฯได้สบาย แม้กระนั้นข้อเท็จจริงที่พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วเป็น บอลกลุ่มชาติจะต้องยกฐานะกันอีกทั้งระบบไม่ใช่แค่สร้างนักฟุตบอลเก่งๆขึ้นเพียงแต่สองสามคน เมื่อมองดูไปยังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นใน MLS ในตอนนี้ เกือบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่การพัฒนานักฟุตบอลคนประเทศอเมริกาอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นบนลีกที่นี้

ย้อนกลับไปยังปี 2015 มีการประเมินว่า MLS จะเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญของลีกยูเครน, เนเธอร์แลนด์ และก็ประเทศโปรตุเกส ในอีก 10-15 ปีด้านหน้า ตัดภาพกลับมายังตอนนี้ พวกเขาแซงยูเครนกับเนเธอร์แลนด์ แถมยังได้โอกาสไม่น้อยที่จะล้มลีกประเทศโปรตุเกสในอีกไม่กี่ปีด้านหน้า โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี แต่ว่าทางลัดที่ MLS ยกฐานะลีกอย่างเร็วแบบที่มองเห็นกันนี้ แลกเปลี่ยนมาพร้อมกับเวลาการพัฒนานักฟุตบอลคนอเมริกันที่สูญเสียไปโดยไม่มีประโยชน์

ละเลยฐานรากบอลรากต้นหญ้า

ปัญหาที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเป็นเพียงแต่ยอดปีระมิดของปัญหาเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่าข้อเท็จจริงแล้ว MLS รู้ดีถึงเรื่องจริงที่นักฟุตบอลดาวรุ่งคนประเทศอเมริกาไม่มีพื้นที่ลงในสนามบนลีกบอลระดับสูงสุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกเขาก็เลยสร้างความร่วมแรงร่วมใจกับลีกระดับรองลงมา อย่าง USL หรือ ยูไนเต็ด ซอคเกอร์ลีก เพื่อลีกนี้แปลงเป็นพื้นที่ให้หน้าแข้งดาวรุ่งปล่อยของ จนกว่ากลุ่มจาก MLS มองเห็นแวว รวมทั้งดึงตัวพวกเขาไปร่วมกลุ่ม

ฟังดูเหมือนกับว่าเป็นไอเดียที่ใช้ได้ เช่นเดียวกับนักเตะดาวรุ่งจากกลุ่มดังในพรีเมียร์ลีก ถูกส่งตัวไปเก็บประสบการณ์ยังเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ก่อนที่จะกลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของแวดวงในคราวหลัง แต่ว่าเรื่องจริงแล้ว แนวความคิดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเลยในแวดวงบอลอเมริกัน ต่อเนื่องจากธรรมชาติของลีกกีฬาในประเทศที่นี้ ซึ่งไม่มีระบบเลื่อนชั้น-ตกชั้นราวกับในทวีปยุโรป

แฟนบอลที่เคยลงไปนั่งมองบอล USL ด้วยตาตนเอง ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาดังตายทั้งเป็น เพราะเหตุว่านี่เป็นบอลที่ขาดแรงดลใจ ถึงแม้ว่าจะความอุตสาหะที่จะเอาชนะ เพราะว่าการคว้าชัยชนะมิได้พาพวกเขาสู่ MLS และก็ความแพ้พ่ายทุกนัดหมายก็มิได้ทำให้พวกเขาตกชั้นด้วยเหมือนกัน นี่เป็นบอลที่เตะไปเพื่อผ่านวัน แถมยังขาดการผลักดันรวมทั้งการลงทุนจากทุกภาคส่วน

นักฟุตบอลที่จะยกฐานะตนเองขึ้นจาก USL สู่ MLS ก็เลยมีน้อยมากอันที่จริง เมื่อบวกกับการที่สมาคมใน MLS เป็นผู้ควบคุมรายนามนักฟุตบอลที่จะถูกเลือกเฟ้นเข้าสมาคมในแต่ละปี (talent pool) ยิ่งทำให้สมาพันธ์พวกนั้นเลือกนักฟุตบอลคนประเทศอเมริกาได้มากดังที่อยากได้ โดยไม่ต้องพอใจนักฟุตบอลนอกเหนือจากนี้ที่ถูกละเลย หรือคอยโอกาสอยู่เลย

เสมือนที่กล่าวไปในบทก่อนหน้า ไม่มีวันที่ระบบของ MLS ในตอนนี้จะสามารถประดิษฐ์นักฟุตบอลคนประเทศอเมริกาฝีเท้าดีได้อย่างยั่งยืน ชมรมบอลในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงใช้ระบบปรับปรุงแล้วก็เลือกเฟ้นดาวรุ่งไม่ต่างอะไรจากกีฬาเบสบอล เป็นการปลดปล่อยนักฟุตบอลกลุ่มนี้ออกไปยืมตัวเรื่อยตราบจนกระทั่งพวกเขาจะถูกประเมินว่าพร้อมเล่นให้กับสมาพันธ์ ถ้าหากไม่ผ่านกฏเกณฑ์ก็จะถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปแบบไม่ใยดี