Finalgoal News: เด็กปั้นก็สำคัญ! 5 ดาวรุ่งที่คล็อปป์มองว่าสมควรได้เหรียญแชมป์เอฟเอคัพ
Finalgoal News: เด็กปั้นก็สำคัญ! 5 ดาวรุ่งที่คล็อปป์มองว่าสมควรได้เหรียญแชมป์เอฟเอคัพ
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อในเกมฟุตบอลถ้วยในดินแดนเมืองผู้ดี โดยความยอดเยี่ยมของ "เดอะ เร้ดส์" มาจากการมีขุมกำลังเชิงลึกที่แข็งแกร่ง รวมทั้งผู้เล่นในศูนย์ฝึกเยาวชนที่มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จของทีม
ด้วยเหตุนี้ทำให้ คล็อปป์ เรียกร้องให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ควรจะมีการจัดเหรียญแชมป์มากกว่า 40 เหรียญ เนื่องจากทีมของเขาประสบความสำเร็จแบบนี้เกิดจากการใช้ขุมกำลังชุดใหญ่และเด็กปั้นในอคาเดมี่ บ้านผลบอล finalgoal
ลิเวอร์พูล เริ่มต้นศึกเอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมกราคม โดยเอาชนะ ชรูว์สบิวรี่ (ลีก วัน) ในรอบ 3 ซึ่งพวกเขาใช้งานนักเตะดาวรุ่งเป็นส่วนสำคัญในการกรุยทางจนเข้ารอบลึกๆ และคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
ฉะนั้น 5 นักเตะดาวรุ่งที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ในการคว้าโทรฟี่ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สมควรอย่างยิ่งที่จะได้เหรียญแชมป์เอฟเอ คัพ มาคล้องคอมีใครบ้างไปรอไปพิจารณากัน
คอเนอร์ แบรดลี่ย์
แบรดลี่ย์ ซึ่งเป็นแบ็กขวาดาวรุ่งที่น่าจับตามองอย่างมาก มีโอกาสได้ลงเล่นครบ 90 นาทีในแมตช์ปะทะกับ ชรูว์บิวรี่ แต่นั่นไม่ใช่แค่เกมเดียวที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมในฤดูกาลนี้
นักเตะเคยได้ลงเล่น 3 แมตช์ให้กับทัพ "หงส์แดง" ในศึกคาราบาว คัพ รวมทั้งเกมสุดดราม่าที่เสมอ เลเสเตอร์ ซิตี้ 3-3 (ชนะดวลจุดโทษ) และยังได้เปิดตัวในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมพบ เอซี มิลาน บ้านผลบอล 888 สด
ดาวเตะวัย 18 ปีเปิดตัวกับการเล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือไปแล้วเมื่อปี 2021 แต่ยังคงต้องรอโอกาสลงเล่นแมตช์แรกในเกมพรีเมียร์ลีกยุค คล็อปป์ ซึ่งเจ้าตัวเกือบได้ลงเล่นอยู่แล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน หลังมีชื่อเป็นตัวสำรองแต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนามในเกมถลุง อาร์เซน่อล 4-0
เอไลจาห์ ดิ๊กสัน-บอนเนอร์
สำหรับเจ้าหนู ดิ๊กสัน-บอนเนอร์ ได้ลงเล่นเปิดตัวกับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคม 2020 หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมกับ ชรูว์บิวรี่ ศึกเอฟเอ คัพ สองปีต่อไป ดาวเตะวัย 21 ปี ได้ลงเล่นตัวจริงในเกมพบคู่ปรับเดิมโดยเล่นคุมเกมแดนกลางร่วมกับ ไทเลอร์ มอร์ตัน และ ฟาบินโญ่
กองกลางทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไมเกิน 17 ปี มีโอกาสได้ลิ้มรสชาติการเล่นเกมคาราบาว คัพ ฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรก เขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นเป็นคนสุดท้ายในแมตช์พบ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ รอบ 4 แทนที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ช่วงท้ายเกม
อดีตเด็กปั้นศูนย์เยาวชนอารืเซน่อล ซัดไปแล้ว 3 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์ จึงมักจะใส่ชื่อนักเตะอยู่ในทีมลิเวอร์พูล เพื่อเป็นยางอะไหล่สำคัญในเกมเอฟเอ คัพ บ้านผลบอล goal
ไทเลอร์ มอร์ตัน
มอร์ตัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้มากกว่าแข้งดาวรุ่งคนอื่นๆ โดย คล็อปป์ เคยส่ง ดาวเตะวัย 19 ปีลงสนามเป็นตัวจริงเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 แมตช์ และยังให้ลงสนามเกมพรีเมียร์ลีกเกมปะทะ อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
นายใหญ่ชาวเยอรมัน แสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในตัวนักเตะดาวรุ่งรายนี้อย่างมาก ซึ่งถูกมองว่ามีอนาคตสดใสในแผงกองกลาง "เดอะ เร้ดส์" เพราะเป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และมีศักยภาพที่สามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอังกฤษ ได้ลงเล่นเปิดตัวให้กับลิเวอร์พูลชุดใหญ่ในฐานะตัวสำรองเกมคาราบาว คัพ พบ นอริช ซิตี้ เมื่อเดือนกันยายน 2021 และนี่คือขุมกำลังสำคัญในอนาคตที่ คล็อปป์ มองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ "เดอะ เร้ดส์"
เคด กอร์ดอน
สี่ประตูที่ลิเวอร์พูลยิงได้ในเกมกับ ชรูว์สบิวรี่ มีความสำคัญอย่างมาก โดยได้จาก ฟาบินโญ่ 2 ฃูก และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 1 ประตู อย่างไรก็ตามสาวก "เดอะ ค็อป" มองว่าประตูตีเสมอของ กอร์ดอน มีส่วนที่นำ "หงส์แดง" ไปสุดท้ายในศึกเอฟเอ คัพ
กอร์ดอน ได้ลงเล่นเปิดตัวกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อปี 2020 ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ทำให้ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจกระชากตัวมาปลุกปั้นในถิ่นแอนฟิลด์
ดาวเตะชาวอังกฤษ วัย 17 ปี มีโอกาสได้ลงเล่นเปิดตัวในเกมพรีเมียร์ลีกไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ที่ต้องเดินทางไปรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ นอกจากนี้เขายังได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ด้วย
แม็กซ์ โวลท์มันน์
ขณะที่ กอร์ดอน ได้ลงเล่นตัวจริงในตำแหน่งปีกเกมกับ ชรูว์สบิวรี่ สำหรับ โวลท์มันน์ ทำหน้าที่เป็นหน้าเป้าในแมตช์เดียวกัน นอกจากนี้นักเตะยังได้เล่นเปิดตัวในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว
หัวหอกวัย 19 ปี ย้ายมาอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนของ "หงส์แดง" ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และพัฒนาศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ และเขาเพิ่งได้รับรางวัลจากสโมสรเป็นสัญญาฉบับใหม่
สำหรับ โวลท์มันน์ ต้องบอกว่านี่คือฝันเป็นจริง เพราะ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เขารัก และติดตามเชียร์มาตั้งแต่เยาว์วัย ฉะนั้นการเป็นนักเตะสเกาเซอร์พันธุ์แท้ทำให้เขาพร้อมทุ่มเทเพื่อทีมอย่างสุดใจขาดดิ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น