Finalgoal News: เบนเซม่าโหดเหี้ยมกดแฮตทริก! เรอัลมาดริดบุกขยี้เชลซีช่องทางลิ่วตัดเชือกชปล.ผ่องใส

Finalgoal News: เบนเซม่าโหดเหี้ยมกดแฮตทริก! เรอัลมาดริดบุกขยี้เชลซีช่องทางลิ่วตัดเชือกชปล.ผ่องใส

Finalgoal News: เบนเซม่าโหดเหี้ยมกดแฮตทริก! เรอัลมาดริดบุกขยี้เชลซีช่องทางลิ่วตัดเชือกชปล.ผ่องใส

"สิงห์บลูส์" เชลซี กลุ่มแชมป์เก่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พบงานยากลำเค็ญเสียแล้ว ในการลุ้นผ่านไปสู่รอบตัดเชือก ข้างหลังแพ้ เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-3 สำหรับการชิงชัยรอบก่อนรองฯ ครั้งแรก เมื่อคืนนี้วันพุธที่ 6 เดือนเมษายน ก่อนหน้านี้ โดยเกมนี้ "พระราชาชุดขาว" ได้ทั้งยังสามประตูจาก ติดอยู่ขอบ เบนเซม่า ผู้เดียว ช่องทางลิ่วสู่รอบรองฯ แจ่มใสอย่างยิ่ง Finalgoal

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ที่ปรึกษา เชลซี ใช้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เล่นวิงแบ็กฝั่งซ้าย ข้างหน้าเป้าเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยที่มี คริสเตียน พูลิสิช กับ เมสัน เมาท์ เล่นอยู่ด้านหลัง ตอนที่ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ได้ คาร์โล อันเชลอตว่ากล่าว ยอดผู้ฝึกสอนชาวอิตาเลียน ที่หาย "วัววิด-19" ทันตามเวลา กลับมาคุมกลุ่มข้างสนาม พร้อมใช้ เฟเดริโก้เก๋ วัลเวร์เด้ เล่นแนวรุกร่วมกับ ค้างขอบ เบนเซม่า รวมทั้ง วินิสิอุส จูเนียร์

เชลซี ออกตัวเกมได้ดูดีกว่า แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็น เรอัล มาดริด ที่ได้โอกาสได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ วินิสิอุส จูเนียร์ ได้ยิงแบบย้ำๆแต่บอลไปชนคานอย่างโชคร้าย บ้านผลบอล finalgoal

นาทีที่ 15 เชลซี ได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล ซึ่ง รีซ เจมส์ ยิงได้ดิบได้ดีทีเดียว แต่ว่า ตำหนิโบต์ เราร์กตัวส์ นายทวารกลุ่มเยี่ยม ซึ่งเคยเล่นให้กับ "สิงห์บลูส์" ปัดออกมาได้

(Goal!!!) นาทีที่ 21 เป็น เรอัล มาดริด ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ วินิสิอุส จูเนียร์ เล่นชิ่งกับ ค้างขอบ เบนเซม่า ทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ากึ่งกลางกลับไปให้ เบนเซม่าโหม่งเต็มๆจ่ายบอลทิ่มใต้คานอย่างสุดงาม

(Goal!!!) แชมป์ยุโรป 13 ยุค ยิ่งเล่นยิ่งเชื่อมั่น นาทีที่ 24 พวกเขามาได้ประตูลำดับที่สองจาก เบนเซม่า คนเดิม ที่กระแทกย้อนศร จ่ายบอลผ่านมือ เอมองอาร์ เมนดี้ นายประตูเจ้าถิ่น เข้าไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็จำเป็นต้องชูเครดิตให้กับ ลูก้า โมดริช ที่วางบอลเข้าในกรอบจุดโทษได้สุดแม่น

บ้านผลบอล 888 สด นาทีที่ 30 "พระราชาชุดขาว" ได้ลุ้นอีกแล้ว จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ซึ่ง โทนี่ วัวรส เปิดบอลเข้ามาเบื้องหน้าประตู และก็เป็น เอแดร์ ไม่ลิเตา ได้กระแทกเต็มๆแม้กระนั้นบอลไปตรงตัว เมนดี้ ที่รับเอาไว้ได้

(Goal!!!) นาทีที่ 40 เชลซี ตีไข่แตกเสร็จ ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ จอร์จินโญ่ หยอดบอลเข้าในกรอบจุดโทษ รวมทั้งเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ กระแทกสุดแรงเกิด จ่ายบอลพุ่งตุงตาข่าย แม้ ฉันร์กตัวส์ ปัดได้ก็ตาม

นาทีที่ 42 เบนเซม่า แทบทำแฮตทริกได้ เมื่อได้โอกาสได้ยิงเน้นย้ำๆในกรอบจุดโทษ แต่เจ้าตัวกลับยิงบอลหลุดกรอบนิ่ง

จบครึ่งแรก เชลซี ตาม เรอัล มาดริด 1-2

(Goal!!!) เริ่มช่วงหลังมาได้แค่นาทีเดียว แปลงเป็น เชลซี ที่มีสกอร์ตามหลัง 1-3 จากความบกพร่องของ เมนดี้ ที่จ่ายบอลน้ำหนักไม่ดี เบนเซม่า เข้าปั้มบอลชนะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ก่อนแปบอลเข้าประตูไปอย่างสบาย ซึ่งนับว่าเป็นประตูที่ 37 ของ หัวหอกเฟร้นช์แมนวัย 34 ปี จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 36 นัดหมายในช่วงฤดูกาลนี้

นาทีที่ 50 เชลซี เกือบจะได้ประตูลำดับที่สอง เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ได้โอกาสได้ทดลองส่องไกล บอลกำลังพุ่งแทงสามเหลี่ยม แม้กระนั้น เราร์กตัวส์ บินปัดบอลออกข้างหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม บ้านผลบอล goal

นาทีที่ 68 "สิงห์บลูส์" พลาดได้ประตูอย่างโชคร้าย เมื่อ โรเมลู ลูกาฉัน ที่ลงสำรอง ได้กระแทกผู้เดียวเตียนๆแม้กระนั้นบอลหลุดกรอบออกข้างหลังไปนิ่ง แล้วก็จากนั้นไม่ถึงนาที พวกเขาได้เสียวอีกครั้ง จากจังหวะส่องไกลผ่านคานแบบได้ลุ้นของ เมสัน เมาท์

เกมครบ 90 นาทีเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งถึงแม้ว่ามีการทดเวลาเจ็บออกไปถึง 5 นาที แต่ว่าไม่มีข้างใดทำแต้มกันได้ จบเกม เชลซี แพ้ เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-3 ทำให้กลุ่มแชมป์เก่าตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ด้อยกว่า "พระราชาชุดขาว" อย่างมากมาย ก่อนออกไปเยี่ยมรัง ซานตำหนิอาโก เบร์ทุ่งนาเบว สำหรับในการชิงชัยเลกสอง วันอังคารที่ 12 ม.ย.

รายนามผู้เล่นที่ลงสู่สนาม

เชลซี (3-4-2-1) : เอมองอาร์ เมนดี้ - อันเดรียส คริสเตนสังเวย (มาเตโอ วัววาสิช น. 46), ติเตียนอาโก้ สิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ฮาคิม สิเย็ค น. 46), จอร์จินโญ่ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น. 64), เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - คริสเตียน พูลิสิช (โรเมลู ลูกาข้า น. 64), เมสัน เมาท์ - ไค ฮาแวร์ทซ์

ผู้ฝึกสอน : โธมัส ทูเคิ่ล

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ว่ากล่าวโบต์ เราร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ ไม่ลิเตา (ที่นาโช่ เฟร์นานเดซ น. 64), ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องต์ เมนดี้ - ลูก้า โมดริช, กาเซไม่โร่, โทนี่ วัวรส (เอมองอาร์โด้ ราคะวิงก้า น. 74) - เฟเดริหรูหรา วัลเวร์เด้ (ดานี่ เซบายอส น. 86) , ติดอยู่ขอบ เบนเซม่า (มึงเร็ธ เบล น. 86), วินิสิอุส จูเนียร์

ผู้ฝึกสอน : คาร์โล อันเชลอตว่ากล่าว

ผู้ตัดสิน : เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ประเทศฝรั่งเศส)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Finalgoa News: ซาลาห์ชั้น 15 !เปิดชื่อ 14 สตาร์พรีเมียร์ลีกซิวค่าแรงงานสูงขึ้นมากยิ่งกว่าบังโม

Lookchinbet คาสิโนออนไลน์ ยอดเยี่ยมเว็บไซต์พนันออนไลน์ลำดับ 1 ประจำปี 2564

Lookchinbet..com โบนัสแบบที่ไม่ต้องฝากเงินยอดเยี่ยม 2021