Finalgoal News: พี่โด้...ไม่เพรส??? อดีตกาลจอมบุกขี้เหล้าขี้ยาของกลุ่มปืนโตผู้นี้เอ๋ยถึงการเดินทางกลับมาสวมชุดปีศาจแดงอีกรอบ

Finalgoal News: พี่โด้...ไม่เพรส??? อดีตกาลจอมบุกขี้เหล้าขี้ยาของกลุ่มปืนโตผู้นี้เอ๋ยถึงการเดินทางกลับมาสวมชุดปีศาจแดงอีกรอบ

ลำดับแรก คอลัมนิสต์ลูกหนังผู้มีลักษณะด้านจิตนิดหน่อยอย่างผมต้องการที่จะให้คนอ่านทุกคน และก็เด็กผีทุกกลุ่มเหล่าละเลียดความคิดเห็นของข้ารูลูกหนังอย่าง พอล เมอร์สัน ซะก่อน Finalgoal

Finalgoal News: พี่โด้...ไม่เพรส??? อดีตกาลจอมบุกขี้เหล้าขี้ยาของกลุ่มปืนโตผู้นี้เอ๋ยถึงการเดินทางกลับมาสวมชุดปีศาจแดงอีกรอบ

อดีตกาลจอมบุกขี้เหล้าขี้ยาของกลุ่มปืนโตผู้นี้เอ๋ยถึงการเดินทางกลับมาสวมชุดแต่งกายปีศาจร้ายแดงอีกทีของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอาไว้แบบงี้

"ผมรู้สึกเศร้ากับ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา จริงๆนะ เนื่องจากภายหลังที่เขาพาทีมจบชั้นที่ 2 เขาก็จัดแจงแนวทางของตนเอาไว้ภายในตอนพรีฤดูกาล เขาหมายมั่น เจดอน ซานโช่ อยู่นานจนได้ตัวมาร่วมทีมสมใจอยาก ต่อไป เขาก็มอบคำสัญญาใหม่ให้ เอดินสัน คาวานี่ เพิ่มเติมปี คุณอาจจะคิดถึงกลยุทธ์เล่นของเขาที่มี มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวู๊ด ลงสู่สนามด้วยกัน แต่ว่าพอใช้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาแบบไม่ทันตั้งตัว มันทำให้วิถีทางทุกๆอย่างที่วางไว้ในตอนต้นจำต้องเลิกล้มไปโดยปริยาย บ้านผลบอล

การหาจุดพอดีมิได้เปลี่ยนเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยโอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา มีแผนเล่นของเขา แต่ว่าการมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้เขาจำต้องโยนทั้งหมดทุกอย่างทิ้งไปทั้งที่ฤดูใหม่เริ่มขึ้นแล้ว

เสมือนผมได้ยินมาว่าพวกเขาต้องคว้า โรนัลโด้ มาร่วมทีม ด้วยเหตุว่ามีข่าวสารว่า แมนฯ ซิตี้ กำลังจ้องมองจะเอานะ พวกเขามิได้ติดต่อกับ ยูเวนตุๆส ตั้งแต่ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่มีความรู้สึกว่าตนเองปลดปล่อยให้นักฟุตบอลผู้นี้ไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ มิได้เพียงเท่านั้น"

อืมมมมมิลลิเมตร..นะ

ว่าแล้วพวกเราเบาๆมาไล่เรียงกันไปที่ละเรื่องว่ามันเป็นจริงอย่างที่ พอล เมอร์สัน ตกทรรศนะเอาไว้หรือไม่ ???

หนึ่ง - แมนฯ ยูไนเต็ด มิได้หมายมั่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอาไว้ตั้งแต่ต้น

หัวข้อนี้จริงแท้แน่นอน

บ้านผลบอล goal ดาวกระหน่ำประตูผู้นี้มิได้อยู่ในกลยุทธ์ทำทีมในช่วงฤดูกาล 2021-22 ของ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา มาตั้งแต่ตอนแรก

แต่ทว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นจะต้องคว้าตัว "ไอ้พี่สาวตโด้" มาร่วมทัพ เนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะปลดปล่อยให้ตัวรุกในตำนานของตนเองผู้นี้ไปสวมชุดแต่งกายของอริร่วมเมืองเดียวกัน

มันคือเรื่องของเกียรติยศ

นอกจากนั้น มันยังคือเรื่องของ "จังหวะ" แล้วก็ "เวลา" ที่เกิดขึ้นตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า โดยมิได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อนอีกตะหาก

แน่ๆว่าหากคุณเป็นเด็กผีตัวจริงแบบสุดลิ่มทิ่มแทงเช็ดรู คุณจะทำหน้าชื่นตาบานแล้วกล่าวว่า 'ช่างมันเถอะฉันไม่แคร์' มิได้เด็ดขาด

เนื่องจากว่าถ้าหากคุณมีความคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องซีเรียส และไม่รู้สึกว่ามันเป็นการเสียฟอร์ม หรือถูกลบเหลี่ยม

โน่นมีความหมายว่าคุณไม่ใช่เด็กผีตัวเลียนแบบ - ไม่ต้องอ่านต่อก็ไดครับผม

ถูกที่มันเป็นการเซ็นสัญญาแบบนึกไม่ถึง และไม่ได้ตระเตรียมแผนรองรับล่วงหน้า เรียกว่าถูกเหตุการณ์พาไปซะมากยิ่งกว่า ไฟนอลโกล

แต่ว่าลองนึกถึงดีๆครับว่าจู่ๆมีคนแออัดเครื่องจักรผลิตประตูที่ค้ำประกันการยิงกระจัดกระจายฤดูละ 20 ดอกเป็นอย่างน้อยมาให้

"จุดเด่น" มันย่อมมีมากยิ่งกว่า "จุดด้วย" อยู่แล้ว

ต่อนี้ไปก็ขึ้นกับผู้เป็นที่ปรึกษานั่นแหละว่าจะบริหารและก็จัดแจงยังไง

แม้คุณได้ 'ของดี' ระดับ GOAT มาแล้วก็ใช้ให้มีประโยชน์มิได้ หรือเห็นว่ามันเป็นการทำลายระบบและก็แบบแผนที่วางไว้

ความผิดพลาดควรจะตกอยู่กับกุนซือมากยิ่งกว่าตัวนักฟุตบอลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ของตน (ทำลายตาข่ายให้หมดสิ้น) อย่างเคร่งครัด ไม่มีบิดพลิ้ว

แล้วการมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้แนวทางของ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา แปรไปอีกแบบใช่หรือไม่ ???

แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาเรื่อง "ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวา" หรือ "หน้าขวา" โดยหาผู้เล่นที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้จริงๆมิได้มานาน

พวกเขาก็เลยยอมฉิบหายเป็นเงิน 73 ล้านปอนด์พลางฉุดกระชาก เจดอน ซานโช่ มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

เจตนาของ โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา เป็นอยากที่จะให้ เจดอน ซานโช่ มาเล่นเป็นตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวา เพื่อจะขยับดาวรุ่งตีนพระรอยดำอย่าง เมสัน กรีนวู๊ด ไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าสลับกับ เอดินสัน คาวานี่ ก่อนที่จะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเดินทางมาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ในระหว่างคอยให้ เจดอน ซานโช่ ปรับนิสัยให้เข้าระบบแล้วก็สนามรบลำแข้งที่หรูหราความยากไปกันใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก - ย้อนกลับไปในนัดหมายเปิดฤดู โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา ให้ เมสัน กรีนวู๊ด เล่นเป็น "หน้าเป้า" ระหว่างที่ "หน้าขวา"เป็นดาเนี่ยล เจมส์

เกมถัดมา เมสัน กรีนวู๊ด โดนจับไปเล่นในตำแหน่ง "หน้าขวา" ก่อนจะกลับไปเป็น "หน้าเป้า" อีกทีในเกมที่ 3 ของฤดู ซึ่งๆหน้าขวาเป็น ดาเนี่ยล เจมส์

3 เกมแรกของฤดู แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2 เสมอ 1 โดยที่ "ไอ้ไม้" กะซวกไป 3 ดอก

เจดอน ซานโช่ ยังมิได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดสักครั้ง ด้วยเหตุว่าเวลาได้ลงก็ถูกขยับไปอยู่ด้านซ้าย

ผลงานยังไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่

ต่อเมื่อได้ "พี่โด้" มาสวมบทเป็นหน้าเป้า

เมสัน กรีนวู๊ด ที่โชว์ฟอร์มการเล่นได้งามเป็นบ้าก็เลยถูกขยับไปเล่นเป็น "หน้าขวา" เต็มกำลัง นำมาซึ่งการทำให้ เจดอน ซานโช่ แทบจะมิได้ลงเล่นในตำแหน่งถนัดของตนเอง

3 เกมแรกที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงในสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2 แพ้ 1 โดยพี่เอ็งกะซวกไป 4 ประตู

จากนั้นผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มแย่

เริ่มด้วยการแพ้ แอสตัน วิลล่า แบบคาบ้าน


และก็ตามด้วยชัยเหนือ บียาร์เรอัล 2-1 ที่เขาเป็นผู้กระแทกประตูชัยในตอนทดเจ็บ


ก่อนทำเป็นเพียงแค่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ที่ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา ดร็อป "พี่โด้" เป็นตัวสำรองจนถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บ่นว่า


ผู้จัดการทีมฟุตบอลควรจะจัดกลุ่มที่ยอดเยี่ยมลงไปในสนาม


ทันใดฝ่ายสนับสนุนคุณน้าลูกกวาดโลกงามก็ป้ายความผิดให้


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าเป็นตัวทำลายระบบการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซนๆ


โทษฐานที่แก่จนถึงไม่ยินยอมช่วยไล่บอลพลางบดบี้แบบ


'เพรสซิ่ง' ตั้งแต่ดินแดนบน


ขอ "อืมมมมมมิลลิเมตร..นะ" อีกที ก่อนขอชี้แจงอีกทีและก็อีกรอบรวมทั้งอีกรอบว่า...


พี่โด้...ไม่เพรส???

การ "บีบสูง" และก็ "เพรสซิ่ง" ไม่ใช่แบบการเล่นหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด จากลักษณะการทำงานของผู้จัดการทีมฟุตบอลไวกิ้งมาตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว...โว้ยยยยย !!!


โอเคย์...คุณอาจมองเห็นอะไรอย่างนี้บ้างในบางนัดหมาย แม้กระนั้นมันเป็นไปตามเหตุการณ์ซะมากยิ่งกว่า ได้แก่พบกับกลุ่มอะไร เหมาะสมกับการเล่นแบบไหน


ผมขอย้ำอย่างหนักแน่นอีกทีว่า "เพรสซิ่ง" แล้วก็ "บีบสูง" ไม่ใช่ระบบการเล่นหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่แล้ว


ผู้ใดกันแน่ที่กล่าวว่า 'ใช่' แกไปดูกลุ่มไหนมา หรือเอ็งไปสูดดมกาวไหนมา


ผู้คนจำนวนมากรู้ผิด ด้วยมีความคิดเห็นว่าผู้เล่นในดินแดนขี้อายคนของ แมนฯ ยูไนเต็ด มานะวิ่งตามบดบี้อย่างคุ้มคลั่ง


เพียงแค่โน่นไม่ใช่การเพรสซิ่งครับผม-ขออภัย


เพราะว่าเพรสซิ่ง มันจำเป็นต้องทำร่วมกันหมดทั้งทีม หมายคือผู้เล่นอีกทั้ง 11 คนภายในสนาม อีกทั้ง 3 ดินแดน


เมื่อดินแดนหน้าบีบสูง ดินแดนกึ่งกลางก็จำเป็นต้องขยับตามขึ้นมาเป็นกลุ่มก้อน เหมือนกับดินแดนข้างหลังที่จำต้องดันขึ้นสูงด้วย โดยไม่เว้นแม้กระทั้งผู้เฝ้าประตูที่จำเป็นต้องขยับออกมาหน้ากรอบจุดโทษ เพื่อรักษา "ช่องว่างระหว่างดินแดน" หรือที่ภาษาอังกฤษบรรยายว่า "ฮาล์ฟสเปซ"

โดยมากที่มองเห็นเป็นการวิ่งตามบอลเพียงผู้เดียว ไล่บอลแบบเล่นลิง 4 ต่อ 1 ในขณะที่ผู้เล่นในดินแดนกึ่งกลางกับดินแดนข้างหลังยืนเท้าสะเอว แล้วท่านผู้ชมบางคนดันรู้เรื่องไปเองว่านี่เป็นการเพรสซิ่ง


เพรสซิ่งบ้านป้าแกดิขอรับ !!!


3 เกมแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกฤดูนี้ที่ยังไม่มี 'พี่โด้' (กระหน่ำ ลีดส์ 5-1, เสมอ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน 1-1 และก็บุกไปเฉือน วูล์ฟส์ 1-0) พวกเขามิได้ "เพรสซิ่ง" ห่าเหวอะหวะไรเลย - ขอรับรอง นั่งจนกระทั่ง รวมทั้งนอนจนกระทั่ง


ไอ้ที่ผลงานและก็ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาตกต่ำ จะต้องเป็นความรับผิดชอบของกุนซือ ไม่ใช่เป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ฉุดกระชากตัวมาเพื่อทำลายตาข่ายให้หมดสิ้นสักกะหน่อย


ปัญหาก็คือคนที่ไม่รู้จัก แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆเหมือนกันกับไม่ค่อยรู้เรื่องเกม (แม้กระนั้นมีความรู้สึกว่าตนเองรู้เรื่องแบบเต็มที) ดันเห็นว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นี่แหละทำลายระบบที่ไม่อยู่จริง ซะอย่างงั้น


ไม่หนำยังมีหน้ามากมายล่าวกล่าวหา "พี่โด้" เข้ามาทำลายสปีริตของกลุ่มพลางทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มิได้ซื้อกองกลางตัวกลางคนใหม่มาร่วมทีมอีกต่างหาก


ถามคำถามว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ปรารถนากองกลางตัวรับคนไหมไหม


ตอบว่าอยากได้ แต่โน่นเพราะเหตุว่าพวกเรามองเห็นจุดบกพร่อง ข้างหลังเปิดฤดูไปสักระยะหนึ่งแล้ว โดยมิได้ชูปัญหานี้มาเอ่ยถึงตั้งแต่ตอนก่อนเปิดฤดูสักนิด เนื่องจากว่าพวกเขามีกองกลางตัวกลางเยอะแยะอยู่แล้วอีกทั้ง สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, เนมานคุณย่า มาตำหนิช, ปอล ป็อกบา และก็ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค


เรื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวทำลายระบบถูกนำกลับมาเอ๋ยถึงอีกที ข้างหลังเกมปัจจุบันที่บุกไปล้วงผลเสมอกลับออกมาจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างเหี้ยมหาญ


เมื่อเขามิได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ประกอบกับข่าวสารการมาเป็นผู้จัดการทีมชั่วครั้งชั่วคราวของผู้จัดการทีมผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อที่การเพรสซิ่งอย่าง ราล์ฟ รังนิค


สำหรับการศึกครั้งปัจจุบันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยี่ยม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไมเคิ่ล คาร์ริค กำหนดแผนการเล่นแบบเฉพาะกิจด้วยการปรับระบบการเล่นเป็น 4-1-2-1-2 โดยวาง เจดอน ซานโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นกองหน้าคู่กัน เจตนาหนึ่งเพื่อ "บีบสูง" รวมทั้ง "เพรสซิ่ง" ตั้งแต่ดินแดนบน


ผู้เล่น 2 คนนี้อายุยังน้อย กำลังวังชายังเหลือเฟือฟาย สามารถไล่บดบี้คู่ปรับในดินแดนหน้า ซึ่งเป็นแนวทางเล่นแบบเฉพาะกิจ ไม่ใช่ระบบการเล่นหลัก เนื่องจากว่าพวกเขามิได้ถูกฝึกหัดให้มาเล่นแบบงี้


อย่าลืมว่า "เพรสซิ่ง" จำต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเล่นค่อนข้างจะสูง แล้วก็จำเป็นต้องมากมายด้วยระเบียบ ช่วยกันทำร่วมกันทั้งทีม ไม่ใช่ผู้เล่นคนคนหนึ่งใครกันแน่ หรือผู้เล่นในดินแดนใดดินแดนหนึ่ง ที่สำคัญความฟิตจำต้องอย่างใหญ่โต


แน่ๆว่ามันจะต้องมีเหตุมาจากการฝึกหัดอย่างมากถ่วง เพื่อความรู้ความเข้าใจรวมทั้งความใกล้ชิดในระบบ โดยกุนซือจะเป็นผู้กำหนดแบบอย่างการเล่น แล้วเลือกเพศผู้เล่นที่เหมาะสมกับระบบการเล่นที่ตนเองระบุเอาไว้ราวกับที่ พบร์เก้น คล็อปป์ กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชี้ให้เห็นนั่นแหละ


แต่นับจาก โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา เป็นบิดาใหญ่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาก็มิได้มีต้นแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อะไรอยู่แล้วนี่หว่า เว้นแต่ต่างคนต่างเล่นพลางใช้ความรู้เฉพาะบุคคลเป็นหลัก


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อายุ 36 ปิ้ง 37 แล้วยังฟิตกว่าแผงหน้าอายุไม่ถึง 30 อีกหลายๆคนในพรีเมียร์ลีก


ถามคำถามว่าคุณพี่เขา "เพรสซิ่ง" ได้ไหม ???


คำตอบเป็นถ้าหากมันเป็นเป้าหมายที่ผู้เป็นผู้จัดการทีมระบุเอาไว้ แกก็จำต้องเล่นให้ได้ แม้ต้องการลงเป็นตัวจริง


ก็แค่อายุของเขาไม่อนุญาตให้เล่นอย่างงั้นตลอดทั้งเกม แม้ว่าจะฟิตแค่ไหนก็ตาม


ยิ่งกว่านั้นเกมแพลนลานของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ในเกมปัจจุบันเป็นปรารถนากองกลางตัวกลางที่ช่วยเกมยอมรับได้ปริมาณ 3 คน โดยไม่มี "หน้าเป้า" แบบเป็นตัวเป็นตน


เนมานคุณย่า มาตำหนิช ปักหลักเป็นตัวปัดกวาดอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์ ประชิดข้างด้วยนักฟุตบอลจำพวก "ลูกหาบ" อย่าง สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ แล้วก็ เฟร็ด เพื่อทำลายเกมในดินแดนกึ่งกลางของ เชลซี


บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นเพลย์เมคเกอร์ประดิษฐ์เกมให้แผงหน้า 2 ผู้ที่มีความแคล่วคล่องว่องไวรอจู่โจมแบบหยาบ


สังเกตว่าทั้งยัง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เจดอน ซานโช่ มิได้ปักหลักอยู่กึ่งกลางเสมือนหน้าเป้าพลางถ่างออกไปข้างๆเสมือนเป็นหน้าซ้ายและก็หน้าขวาในระบบ 4-2-3-1 นั่นแหละแล้วให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ใส่ตนเองขึ้นมาตรงๆราวกับเป็นกองหน้าตัวหลอก


แท็คติกเป็นอยากได้ความเร็วของนักฟุตบอลอายุน้อยในเกมตอบโต้กลับ เหมือนกันกับกำลังสำหรับในการไล่บีบคั้นคู่ปรปักษ์ในดินแดนหน้าอีกด้วย


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เลยถูกดร็อปเป็นตัวสำรองก่อนด้วยเหตุฉะนี้ เพื่อเก็บความสดในตอนครึ่งชั่วโมงในที่สุดที่จะถูกส่งลงมา


ถ้ามองเกมที่เขาลงเล่นทุกนัดหมายอย่างประณีต


คุณจะพบว่า "พี่โด้" แสดงออกถึงความเอาจริงเอาจังและก็ทุ่มเทแบบเต็ม 80 ตีนถีบ โดยไม่มีเหลาะแหละสักนัดหมาย


แม้กระทั้งในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แบบหมดสภาพ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชอบเป็นผู้เล่นที่ได้คะแนนความรู้ความเข้าใจสูงอยู่ตลอด


ไอ้ที่ผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด แย่ เสียประตูง่าย แล้วก็พร้อมโดนยิง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Finalgoa News: ซาลาห์ชั้น 15 !เปิดชื่อ 14 สตาร์พรีเมียร์ลีกซิวค่าแรงงานสูงขึ้นมากยิ่งกว่าบังโม

Lookchinbet คาสิโนออนไลน์ ยอดเยี่ยมเว็บไซต์พนันออนไลน์ลำดับ 1 ประจำปี 2564

Lookchinbet ซุปเปอร์สล็อตฟรีเครดิต100 ไม่ต้องฝากก่อน สุดยอดแห่งปี 2022