Finalgoal News: ก็องเต้ซัดกลุ่มเก่า! เชลซีดาหน้ายิงบุกผลาญเลสเตอร์ทิ้งเรือ-ค้อน 6 แต้ม

เชลซี คืนฟอร์มชั่วร้ายบุกกระหน่ำ เลสเตอร์ ไปกินขาด 3-0 โดยเกมนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซัดประตูใส่อดีตกาลสังกัดเดิมได้ด้วย ทำให้ "สิงห์บลูส์" ทำคะแนนทิ้ง แมนฯ ซิตี้ รองฝูงเพิ่มเป็น 6 คะแนนชั่วครั้งชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก ช่วงวันที่ 20 พฤศจิกายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไฟนอลโกล

ศึกบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกทุกวันเสาร์ที่ 20 พ.ย. 2564 ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ระหว่าง เลสเตอร์ สิตี้ กลุ่มชั้น 12 เจอ เชลซี หัวหน้าฝูง

เลสเตอร์ ของ เบรนดินแดน ร็อดพบร์ส แพ้ผู้ใดมา 3 เกมติด โดยเกมนี้ไม่มีแกนข้างหลังอย่าง ยูริ ตีเลมันส์ ที่มีความรู้สึกเจ็บ โดนคู่กึ่งกลางใช้ วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ จับคู่กับ บูบากาปรี่ ซูมาเร่ ในช่วงเวลาที่แนวรุกวาง เจมี่ วาร์ดี้ ล่าตาข่าย บ้านผลบอลวันนี้

ด้าน เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ยังคงไม่มี โรเมลู ลูกาเรา หอกตัวเก่ง โดยส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงปฏิบัติงานแทนอย่างเดิม โดยมี คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย รวมทั้ง เมสัน เมาท์น รอทำเกมส่งเสริมอยู่ข้างหลัง

ประเดิมครึ่งแรกมาเป็น เชลซี ที่ครอบครองบอลบุกใส่โดยทันที แล้วก็แทบขึ้นนำอย่างเร็ว ในนาทีที่ 4 เมื่อ จอร์จินโญ่ วางบอลยาวจากดินแดนตนเองให้ เบน ชิลเวลล์ หลุดลำพังมาซัดด้วยซ้ายเน้นย้ำๆบอลพุ่งไปชนคานออกข้างหลังไปแบบเฉียด

กลุ่มเยี่ยมยังบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียวจนกระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 14 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา เบน ชิลเวลล์ เปิดมาเข้าหัว อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ขึ้นโหม่งแปลงทางบอลทิ่มมุมเสาไกลเข้าไป

บ้านผลบอล นาทีที่ 22 เมสัน เมาท์น กองกลาง เชลซี สบโอกาสซัดฟรีคิกหน้าจุดโทษบอลจ่ายบอลผ่านกำแพงแต่ว่าในที่สุดฮุคไม่ทันผ่านคานออกข้างหลังไป

แล้ว เลสเตอร์ ชวดตีเสมอแบบโชคร้ายในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดไปที่เสาไกลให้ อเดโมล่า ลุคแมน หลุดลำพังมาซํดย้ำๆจ่ายบอลตุงตาข่ายแม้กระนั้นผู้ช่วยยอมแพ้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

อย่างไรก็แล้วแต่ นาทีที่ 28 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัดบอลพอดีกึ่งกลางสนามแล้วลากบอลขึ้นมาผู้เดียวก่อนที่จะวางเท้ากดด้วยซ้ายในจุดโทษจ่ายบอลตุงตาข่ายอย่างงดงามให้ เชลซี นำห่างเป็น 2-0

ขณะที่เหลือ เชลซี ยังเป็นข้างครอบครองบอลบุกจู่โจมอยู่ฝ่ายเดียวแต่ว่าทำคะแนนเพิ่มไมได้ทำให้จบครึ่งแรกบุกมานำ เลสเตอร์ อยู่ 2-0

ช่วงหลัง เลสเตอร์ ไม่คอยช้าปรับกองทัพทีเดียวสองคนส่งอีกทั้ง เคเลชี่ อิเฮท้องนาโช่ และก็ เจมส์ แมดดิสัน สองแนวรุกลงมาเล่นแทน อเดโมล่า ลุคแมน แล้วก็ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เป็นลำดับ

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 53 เชลซี เกือบจะได้ลูกสามจากจังหวะที่ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย หลุดไปถึงสุดเส้นข้างหลังแล้วไหลย้อนมาให้ เบน ชิลเวลล์ กดด้วยซ้ายตามน้ำในจุดโทษ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล พุ่งปัดทิ้งออกข้างหลังไปจวนเจียน

แล้วหลังจากนั้นนาทีที่ 57 เลสเตอร์ ได้ลุ้นคราวแรกในช่วงหลังจากลูกยิงของ เจมส์ แมดดิสัน แม้กระนั้นบอลไม่มีน้ำหนักไปเข้าซอง เอมองอาร์ เมนดี้ รับสบาย

ต่อมา นาที 61 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย หลุดเข้าจุดโทษแล้วล็อกตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาบอลผ่านหน้าปากทางออกไป

นาที 63 เลสเตอร์ เกือบจะตีไข่แตกเฉียดจากลูกยิงหน้าจุดโทษของ ดาเนียล อมาตีย์ เอมองอาร์ เมนดี้ จำเป็นต้องออกแรงบินปัดออกข้างหลังไปได้

เชลซี บุกขึ้นมาอีกชุดและก็แทบได้ลูกสามอีกรอบ ในนาที 68 จากจังหวะติดต่อประสานงานของสองผู้เล่นสำรอง ฮาคิม สิเยค แทงทะลุช่องมาให้ คริสเตียน พูลิสิช โฉบมายิงที่เสาแรกบอลเข้าข้างตาข่าย

จนถึงนาทีที่ 71 กลุ่มเยี่ยมจะนำเป็น 3-0 จากการติดต่อประสานงานของคู่เดิม ฮาคิม สิเยค ไหลบอลมอบให้พานให้ คริสเตียน พูลิสิช ใส่มาซัดจ่อๆหน้าปากประตูไม่เหลือ

นาทีที่ 82 เลสเตอร์ ได้โอกาสตามตีไข่แตกอีกรอบจากลูกยิงหน้าจุดโทษของ เจมส์ แมดดิสัน บอลไปไถลแนวรับ เชลซี แม้กระนั้น เอมองอาร์ เมนดี้ ยังบินเซฟออกข้างหลังไปได้

ในตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี บุกกระหน่ำ เลสเตอร์ สิตี้ 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 29 แต้มทิ้ง แมนฯ ซิตี้ รวมทั้ง เวสต์หมูแฮม รองฝูงร่วมเป็น 6 คะแนนชั่วครั้งชั่วคราว

รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม

เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ดาเนียล อมาตีย์, ซากลาร์ โซยุยงนยก, จอนนี่ อีแวนส์ - ติเตียนโมธี ติดอยู่สตาญ, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบากาปรี่ ซูมาเร่, มาร์ค อัลไบรท์ตัน - อเดโมล่า ลุคแมน (เคเลชี่ อิเฮท้องนาโช่ น.46), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เจมส์ แมดดิสัน น.46), เจมี่ วาร์ดี้

เชลซี : เอมองอาร์ เมนดี้ - เทรโอ้อวดห์ ชาโลบาห์, ตำหนิอาโก้ สิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ - คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, เมสัน เมาท์น (ฮาคิม ซีเยค น.62) - ไค ฮาแวร์ตซ์ (คริสเตียน พูลิสิช น.62)